loading...

เงินพระสังฆราชอยู่ไหน? นั่งสาย 56 ไปตามหาความจริงกันเถอะ!!!??

พุทธอิสระถามถึงเงินอุดหนุนพระสังฆราชกว่า 300 ล้าน??? อยากบอกว่า ..นั่งสาย 56 สุดสายแล้วขึ้นไปถามดีกว่ามั๊ย!!?? ซิ่งสาย 56 ไปเล้ย!!!!  ...

พุทธอิสระถามถึงเงินอุดหนุนพระสังฆราชกว่า 300 ล้าน??? อยากบอกว่า ..นั่งสาย 56 สุดสายแล้วขึ้นไปถามดีกว่ามั๊ย!!??

ซิ่งสาย 56 ไปเล้ย!!!!
  คำตอบที่เจ้าอยากรู้ทั้งหมด!! ถามข้าได้
อะเฮือก...อะเฮือก

 ประเด็นร้อน... มีผู้เกี่ยวข้องหลัก เป็นตัวละครเอกดังนี้
วัดอดีตสังฆราชแถวบางลำพู
ผู้ตรวจเงินแผ่นดิน
พุทธอิสระ
และคนเบิกเงินไปกว่า 300 ล้าน
อย่ากระนั้นเลย...
จักปล่อยให้พุทธอิสระลอยนวลไปเฉยๆ มิได้
ถึงเวลาที่จะแฉความจริงวันนี้ ให้โลกรู้!!
 มาเข้าเรื่อง...กันเถอะ!!!

loading...
เหตุผลที่ พุทธอิสระ ยกขึ้นมาเป็นข้ออ้าง
ในการเลี่ยง ในการดีเบต กับ อ.เมธาพันธ์
โดยขอไม่พูดเรื่อง พระลิขิต กับ
เงินอุดหนุนพระสังฆราช
เพียงอ้างน้ำขุ่นๆ ว่า .."เรื่องนี้
ได้อยู่ในกระบวนการยุติธรรมแล้ว
จะทำให้เสียรูปคดีต้องให้เป็นเรื่อง
กระบวนการยุติธรรม" ตีเนียนจริงๆ

สรุปชัดเจนมาก ว่าพุทธอิสระพยายามเลี่ยง
ใช้ "วิชาอำสังคม" อยู่ขณะนี้  คือ 2 ประเด็นสำคัญ
เรื่องพระลิขิต กับ เงินอุดหนุนสังฆราชพุทธอิสระ
กับพวก วางแผนชูธง กะเล่นงานสมเด็จวัดปากน้ำ
โดยมีเป้าหมาย เพื่อขวางการสถาปนาเป็น

สมเด็จพระสังฆราช

แต่พอถึงคราวต้องพูดความจริง ต้องใช้เอกสารจริง
เพื่อนำมายืนยันต่อหน้าสังคม
พุทธอิสระกลับพยายามบ่ายเบี่ยง
ไม่อยากพูดถึงพระลิขิต
ไม่อยากพูดถึงเงินอุดหนุนสมเด็จพระสังฆราช

    น่าคิด...ทำไมพุทธอิสระจึงมีพฤติการณ์ชวนให้น่าสงสัยอย่างนี้ พุทธอิสระกลัวอะไรหรือเปล่า?

loading...
"อย่าบอกนะว่า เจ้าคุณชั้นราช
กับ เจ้าคุณแขก (ใครกันละเนี่ย?)
บอกให้พุทธอิสระหยุดสาวความลึกใน 2 ประเด็นนี้"
หลักฐานชี้แจงอาจหาไม่ได้ว่า ..
เงินอุดหนุนสมเด็จพระสังฆราชปีละ 23 ล้าน
ตั้งแต่ทรงอาพาธเมื่อปี 2544 จนถึงสิ้นพระชนม์
ปี 2556 รวม 13 ปี นั้น หากคิดปีละ 23 ล้าน 13 ปี
ก็เป็นเงินเกือบ 300 ล้าน ไม่ใช่น้อยเลย!!
อ้าว!!!!??? "แล้วใครเบิกไปใช้ล่ะ"

คนเบิกจะรู้ดีกว่าใครอื่น
เพราะสมเด็จพระสังฆราชนอนป่วยอยู่มิใช่หรือ?
ท่านได้ใช้เงินสักสตางค์แดงเดียวหรือเปล่า?
รู้สึกพระองค์ยังไม่ได้ใช้เลย
หรือ มีสมเด็จพระสังฆราชเงาไปทำระยำ
ไปแอบเอาไปใช้จนหมดเกลี้ยงแล้ว?!!
การเบิกจ่ายงบจำนวนมากขนาดนี้
หลักฐานมันหาง่ายกว่า"รถโบราณ"
ของวัดปากน้ำหลายร้อยเท่า
DSI ไม่สนทำคดีนี้บ้างหรือ???

ที่จริงเรื่องนี้ หากจะตอบไม่ยาก
นั่งรถสาย 56 ไปถามเอาเอกสารที่ห้องกระจก
แถวบางลำพู เจ้าคุณแขก เจ้าคุณชั้นราช
เจ้าคุณชั้นเทพก็ยังมีอยู่ให้เตรียม
เอกสารการเบิกจ่ายเอาไว้ดี ๆ กันไว้ด้วย
ถึงอย่างไรเสีย วันหนึ่ง เมื่อมีคนร้องเรียน สตง.
เขาก็ต้องตรวจสอบเอกสารเบิกจ่ายเหล่านี้แน่นอน
ตรวจว่า ใช้จ่ายตรงตามวัตถุประสงค์หรือไม่
หากสตง.ไม่เรียกตรวจสอบตามที่มีผู้ร้องเรียน
หรืออาจระบุก็ได้ว่า ตามที่พุทธอิสระร้องเรียน
ก็จะมีคนไปร้อง สตง. ฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่ก็ได้

จบไหม !!!??? พุทธอิสระ

ระวังเจ้านายตัวเองไข้จะขึ้น
คุณก็ไม่ฟัง ดันจนได้เรื่อง
พุทธอิสระดันทุรัง..โร่แจ้งความ...
ผู้บริสุทธิ์ไม่ผิด...ดาบนั้นคืนสนอง!!!



มาต่อกัน...ที่ประเด็นคำถามว่า
เงินส่วนนี้ได้มีการเบิกจ่ายหรือไม่
แล้วใครล่ะเบิกได้????

ขอย้อนถามพุทธอิสระว่า ..
ถ้าในกรณีที่ไม่ได้มีการเบิกจ่ายไปใช้ในศาสนกิจ
สมเด็จพระสังฆราชนั้น
เหตุเพราะเนื่องจากอยู่ระหว่างทรงอาพาธ
ไม่ได้ปฏิบัติศาสนกิจ และทุกคนก็ทราบว่า
ทรงอาพาธประทับอยู่ที่โรงพยาบาลจุฬาฯ ตลอด
ในเวลาต่อมา รัฐบาลได้มีการตั้งคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่
สมเด็จพระสังฆราชหมายความว่า ...
งานในหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช
มีผู้ทำหน้าที่แทนและตลอด 13 ปี ของการทำหน้าที่ฯ
 งานทุกอย่างมีคณะทำแทนทั้งหมด
แต่คณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช
ไม่เคยเบิกเงินส่วนนี้มาใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น
ไม่ว่าจะแค่ค่าหมึก ค่าปริ้นเตอร์
ค่ากระดาษตราธรรมจักร ค่าน้ำมันรถ จิปาถะ ฯลฯ
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็แสดงว่าไม่มีการเบิกเงินส่วนนี้
หลังจากนี้อะไรมันจะตามมา และไปลงที่ใคร?

"ในกรณีนี้ แสดงว่าเงินหลวงจำนวนเกือบ 300 ล้านนี้
ยังอยู่ครบ ใช่หรือไม่?"
หากตอบ "ใช่ ยังอยู่ครบ"
คำถาม คือ ..????

    "แล้วขณะนี้ เงินหลวงจำนวนนี้อยู่ที่ไหน อยู่ในบัญชีของใคร"


หากแก๊งค์งาบเงินหลวงเหล่านี้หวังดีต่อส่วนรวม
ทำไมเมื่อ ข้ามปีงบประมาณ
หากไม่มีความจำเป็นต้องใช้จ่ายเงินจำนวนนี้
ทำไมไม่ส่งเงินนี้คืนหลวงไป
เพื่อให้หลวงนำไปใช้ในส่วนที่จำเป็น

อ้าว...อย่างนี้งุบงิบกันเองนี่นา
แล้วจะใส่ร้ายคนอื่นเพื่ออะไร เข้าตัวเองชัด-ชัด
---------------------------------------------

ผู้ตรวจเงินแผ่นดิน
กำลังจะทำการตรวจสอบตามคำร้อง
ของพุทธอิสระอย่างจริงจัง!!!
ตรวจสอบไม่ยากสักนิดเพราะ แค่เช็คต้นทางออก
จากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติว่า ..
ได้สั่งจ่ายในนามของใคร ใครเป็นผู้เซ็นรับ
ก็สามารถตรวจสอบปลายทางของเงินได้แล้ว
หากไปพบความไม่ชอบมาพากล
ก็อาจมีการเรียกเงินส่วนนี้คืนหลวง
เพื่อนำไปใช้ในส่วนอื่นต่อไปด้วย
ที่สำคัญอาจได้ลากคอ "พวกลวงโลก" เหล่านี้
ได้เข้าตะรางทั้งแก๊งค์ก็เป็นได้ งานนี้มีลุ้น
แต่ให้รู้ตัวนะว่า...
"บัดนี้..พุทธอิสระได้จุดไฟเผาวัดแถวบางลำพูเรียบร้อยแล้ว"

จงตอบคำถามนี้ทีละข้อ...

"เงินนี้ ได้มีการเบิกจ่ายไปแล้ว"
"งบนี้ใครเป็นผู้มีอำนาจในการเบิกจ่าย
หรือใครคนนั้นใช้อำนาจอะไรจึงเบิกจ่ายเงินส่วนนี้ได้"
อย่าตอบนะว่า..
"เลขานุการในสมเด็จพระสังฆราชเบิกจ่ายไปแล้ว "
 "แล้วเลขานุการฯ เขามีอำนาจอะไร
 มาเบิกจ่ายงบสมเด็จพระสังฆราชไปใช้"

ดูระเบียบสำนักงบประมาณว่า ..
"เลขานุการฯ ไม่มีอำนาจเบิกเงินส่วนนี้ไปใช้ได้"
"เลขานุการฯ ไม่มีอำนาจเบิกเงินแทนพระสังฆราช"

งานนี้ พุทธอิสระ  จะผลักอาจารย์ที่ตนเองกะจะปั้นเป็นใหญ่
ให้ตกหลุมที่ตัวเองขุดไว้เสียเอง ด้วยผลงานโง่ครั้งนี้
ไม่ต้องไปโทษใครหรอก
"มาไงก็ไปงั้น คดีมาก็คดีไป
เวรกรรมมีจริง"
เช็คเกือบ 300 ล้านนั้น.....

    "สั่งจ่ายมากี่ใบแล้ว จ่ายเมื่อไหร่ ใครเป็นผู้รับ"สงสัยเรื่องนี้...จะมีอาถรรพ์

ทิ้งท้าย พุทธอิสระ...โปรดระวังตัวด้วย!!

"ชอบเอาเรื่องจริง มาพูดเล่น
ชอบเอาเรื่องเล็กมาพูดเป็นเรื่องใหญ่


และชอบเอาเรื่องใหญ่ มาพูดป็นเรื่องธรรมดา
ทำเหมือนไม่อะไร"
อย่าคิดว่าไม่มีคนรู้ทัน

เรื่องเงิน..และอำนาจ ผลประโยชน์
มีแต่คนโฉดเท่านั้นแหละ!!! ที่หาเรื่องใส่ตัว
เอาความชั่วให้คนอื่น

ระวังนะ!!! ความชั่วในตัวจะปะทุแล้ว
นรก-รอ-อยู่

เพราะฉะนั้น...เรื่องที่ร้องเรียนไว้
ทำต่อซะให้จบนะ..สังคมอยากรู้เหมือนกัน

You Might Also Like

0 ความคิดเห็น